ผู้เขียน หัวข้อ: บริหารจัดการอาคาร: น้ำยาแอร์ ต้องเติมตอนไหน ?  (อ่าน 27 ครั้ง)

siritidaphon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 201
  • ซื้อขายสินค้ายานยนต์ โพสฟรีสินค้าทั่วไทย
    • ดูรายละเอียด
บริหารจัดการอาคาร: น้ำยาแอร์ ต้องเติมตอนไหน ?
« เมื่อ: วันที่ 23 กันยายน 2024, 22:35:43 น. »
บริหารจัดการอาคาร: น้ำยาแอร์ ต้องเติมตอนไหน ?

การใช้เครื่องปรับอากาศติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้อากาศที่ออกมาจากเครื่องปรับอากาศไม่เย็นเท่าที่ควร จึงทำให้เกิดความสงสัยว่า น้ำยาแอร์ที่อยู่ในเครื่องแห้งไปหรือไม่ จำเป็นต้องเติมน้ำยาแอร์ใหม่แล้วหรือยัง หรือแค่ล้างก็พอแล้ว เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยตั้งคำถามแบบนี้ เมื่อรู้สึกว่าแอร์ไม่ค่อยเย็น ซึ่งความจริงแล้ว การที่แอร์เริ่มไม่เย็น สาเหตุที่แท้จริงอาจจะเกิดจากสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ภายในตัวเครื่อง เพราะการทำความสะอาดแอร์ด้วยการถอดชิ้นส่วนภายในออกมาล้าง ทั้งส่วนของแผ่นกรองอากาศ คอลย์เย็นที่อยู่ภายใน โดยการใช้เครื่องปั๊มน้ำแรงดันสูงฉีดทำความสะอาด ก็อาจจะสามารถแก้ไขปัญหาได้แล้ว ทำให้อากาศไหลเข้าสู่ตัวเครื่องได้สะดวก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ให้ดีขึ้น ทำให้อากาศที่ออกมาจากตัวเครื่องเย็นฉ่ำ และช่วยประหยัดค่าไฟลงด้วย


ซึ่งคำถามที่ว่าเราจะต้องเติมน้ำยาแอร์ทุกครั้งหรือไม่ เวลาที่จะต้องล้างแอร์ เพราะช่างอาจจะบอกให้เราต้องเติมน้ำยาแอร์ และทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งนั่นอาจจะหมายความว่า เราอาจจะถูกหลอกได้ แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ถึงเวลาที่เราจะต้องเติมน้ำยาแอร์แล้ว วันนี้ทางเราจะมาพูดถึงสัญญาณที่บ่งบอกว่า เราจะต้องเติมน้ำยาแอร์แล้ว เพื่อเป็นแนวทางและข้อมูลเพื่อให้เราจะได้ไม่ต้องโดนช่างแอร์หลอกเติมน้ำยาแอร์ ทำให้เสียค่าใช้จ่ายไปเปล่าๆได้นั่นเอง
 

สำหรับน้ำยาแอร์ เป็นสารเคมีที่จะใช้เพื่อการทำงานในระบบปรับอากาศ และระบบทำความเย็น เมื่อน้ำยาแอร์ไหลผ่านคอมเพรสเซอร์และคอยล์เย็น จะช่วยดูดซับปริมาณความร้อน กับความร้อนแฝง เพื่อเปลี่ยนอุณหภูมิและความดันให้ต่ำลงและกลายเป็นความเย็น แต่ในส่วนของความร้อน จะถูกถ่ายเทผ่านคอมเพรสเซอร์ หลังจากนั้นจะถูกกลั่น ให้กลับมาป็นสถานะเดิม เพื่อกลับเข้าสู่ระบบ และทำหน้าที่ดังเดิม


ดังนั้น น้ำยาแอร์ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่ทำให้แอร์บ้านของเรามีความเย็นออกมา หากขาดสิ่งนี้ไปแอร์บ้านของเราก็อาจจะไม่มีความเย็นออกมา หรืออาจจะเป็นปัจจัยอื่นๆที่ทำให้แอร์ไม่เย็นได้ โดยระบบน้ำยาของแอร์บ้านโดยทั่วไปแล้วเราเรียกกันว่า ระบบกึ่งปิดกึ่งเปิด ซึ่งไม่ใช่ระบบปิดที่สมบูรณ์ ซึ่งนั้นก็ทำให้ระบบน้ำยามีโอกาสที่จะรั่วหรือซึมออกไปได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าแอร์ทุกเครื่องจะมีโอกาสรั่วหรือซึมเหมือนกันทั้งหมด หากได้รับการติดตั้งที่ดี ผลิตภัณฑ์ที่ดี โอกาสที่น้ำยาแอร์จะรั่ว หรือซึมหายไปก็เป็นไปได้น้อยมาก

 
ซึ่งแอร์ทำงานโดยระบบปิด นั่นหมายความว่า น้ำยาแอร์จะไหลเวียนอยู่ภายในระบบไม่มีวันระเหยออกมา หากแอร์ไม่มีการรั่วซึม และการเติมน้ำยาแอร์ที่ถูกควรเติมหลังจากแอร์มีอายุการใช้งานมาแล้ว 4-5 ปี ไม่จำเป็นต้องเติมบ่อยๆ อย่างที่ช่างบางคนบอก ถ้าหากแอร์รั่วควรโทรหาช่างซ่อมแอร์มืออาชีพที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้เพื่อซ่อมปัญหารอยรั่วทำให้แอร์ใช้งานได้นานโดยที่เราไม่ต้องห่วงเลยว่าจะต้องเติมน้ำยาแอร์อีกเมื่อไหร่ แต่ในกรณีที่ชิ้นส่วนหรือท่อแอร์มีรอยรั่ว ก็จำเป็นต้องทำการซ่อมก่อนถึงจะเติมน้ำยาแอร์ทำให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ ถ้าช่างไม่ได้แจ้งว่าแอร์มีรอยรั่วแล้วบอกให้เติมน้ำยาแอร์ 20 – 30 ปอนด์ เป็นไปได้ว่าเขาใช้กลโกงหลอกให้เติมเพื่อเก็บเงินได้ อย่างไรก็ตาม หากแอร์ไม่เย็น ก็ไม่ได้แปลว่าน้ำยาแอร์หมด แต่อาจเป็นเพราะว่าฝุ่นภายในอากาศเข้าไปอุดตันคอยล์และแผงกรองอากาศ เราควรถอดชิ้นส่วนแอร์ออกมาล้างก่อนอันดับแรก และควรล้างแอร์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หรือมากกว่าเพื่อให้แอร์ทำงานเต็มประสิทธิภาพ แถมยังช่วยประหยัดค่าไฟลดการทำงานหนักของเครื่องได้

 
หากคุณอยากที่จะตรวจสอบหรือเช็คระบบแอร์ ล้างทำความสะอาดโดยช่างที่มีความเชี่ยวชาญ ที่การันตีด้วยประสบการณ์การทำงานมาอย่างยาวนาน ก็สามารถขอรายละเอียดได้จากทางเรามีบริการดูแลระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศภายในอาคาร ระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะนั่นหมายถึงอากาศที่ดีที่เราสูดดมเข้าไป ถ้าหากเรามีระบบเครื่องปรับอากาศที่ไม่สะอาดแล้ว อาจจะทำให้เราเสียสุขภาพไปด้วย