ผู้เขียน หัวข้อ: มอเตอร์เอ็กซ์โปร์ 2024: เทียบรุ่น BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid VS Honda CR-V  (อ่าน 34 ครั้ง)

siritidaphon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 202
  • ซื้อขายสินค้ายานยนต์ โพสฟรีสินค้าทั่วไทย
    • ดูรายละเอียด
มอเตอร์เอ็กซ์โปร์ 2024: เทียบรุ่น BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid VS Honda CR-V e:HEV ES คันไหนดี?

BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid เปิดราคาเข้ามาท้าชิงเจ้าตลาดอย่าง Honda CR-V ด้วยราคาที่ถูกกว่าเกือบครึ่งหนึ่ง มาลองเทียบสเปคกันหน่อยว่าทั้งสองคันนี้จะต่างกันอย่างไรบ้าง โดยสามารถสัมผัสคันจริงของทั้งสองคันนี้ได้ที่งาน Motor Expo 2024 ได้เลย

 
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid เปิดตัวและประกาศราคาในไทย ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 939,900-1,039,000 บาท ซึ่งเรียกได้ว่าตลาดแตก เนื่องด้วยขนาดตัวรถแบบ C-SUV และออพชันที่มี ทำให้สามารถแข่งขันกับเจ้าตลาดที่มีราคาสูงกว่าเกือบ 2 เท่าได้อย่างสูสี

 
หากมองจากมิติตัวถังและระบบขับเคลื่อนแล้ว หลายคนคงอดไม่ได้ที่จะเทียบกับเจ้าตลาดอย่าง Honda CR-V e:HEV ES ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดและระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเหมือนกัน และมีราคาอยู่ที่ 1,589,000 บาท เรามาลองเทียบกันดูว่า มิติต่าง ๆ ของรถทั้งสองคันนั้นแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
 
เทียบราคา BYD Sealion 6 DM-i VS Honda CR-V e:HEV ES

BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid ราคาจำหน่ายรุ่น Dynamic 939,900 และรุ่น Premium 1,039,000 บาท
Honda CR-V e:HEV ES ราคาจำหน่าย 1,589,000 บาท

เทียบมิติตัวถัง

มิติตัวถัง    BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid   Honda CR-V e:HEV ES
ความยาว (มม.)   4,775                                     4,691
ความกว้าง (มม.)   1,890                                     1,866
ความสูง (มม.)   1,670                                     1,691
ระยะฐานล้อ (มม.)   2,765                                      2,700
Ground Clearance (มม.)   155-180                      198
 
เราจะเห็นได้ว่า Sealion 6 ใหญ่กว่า CR-V e:HEV เกือบทุกมิติ มีเพียงตัวรถโดยรวมที่จะเตี้ยกว่าเล็กน้อยเท่านั้น
 
เทียบภายนอก-ภายใน BYD Sealion 6 DM-i VS Honda CR-V e:HEV ES
 
ภายนอก BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid
 
BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid มาพร้อมดีไซน์ภายนอกแนวคิด Ocean X ซึ่งยังอยู่ใน Ocean Series เช่นเดียวกับรุ่นอื่น ๆ ที่จำหน่ายในไทย ดีไซน์ด้านหน้ามีกระจังหน้าไร้ขอบ ทรงกลมมนคล้ายหยดน้ำ ไฟหน้ามีโคมรูปตัว C พร้อมระบบปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ ในรุ่น Premium จะให้ไฟหน้าพร้อมฟังก์ชั่น Follow Me Home มาด้วย
 
เส้นสายด้านข้างมีความต่อเนื่องตั้งแต่ด้านหน้าตลอดจนความยาวทั้งหมดของตัวรถ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วเข้ากับเส้นสายโดยรวม ไฟท้ายแบบ LED เป็นแถบเต็มความกว้างของตัวรถ และตกแต่งรอบคันด้วยแถบอลูมิเนียม เสริมความพรีเมียมของรถบนท้องถนน
 
ออพชันที่น่าสนใจ เช่น กระจกคู่หน้า 2 ชั้น, หลังคา panoramic sunroof, ไฟเลี้ยวด้านท้ายแบบ Sequential, ฝาท้ายไฟฟ้า สำหรับสีตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว (Horizon White), สีดำ (Quantum Black) และสีเทา (Graphite Grey) เฉพาะในรุ่น Premium
 

ภายใน BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid
 
สำหรับภายในของ Sealion 6 ยังคงใช้แนวทางการออกแบบเดียวกับภายนอก ดูโฉบเฉี่ยวพร้อมกับหรูหราในเวลาเดียวกัน มาในโทนสีดำ/น้ำตาลทั้ง 2 รุ่นย่อย มีเบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง, เบาะแถวหลังปรับเอนได้, ระบบปรับอากาศแบบ 2 โซน ซ้าย-ขวา พร้อมกรองฝุ่น PM2.5
 
ออพชันภายในค่อนข้างครบครัน เช่น พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มหนังสังเคราะห์, มาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว, หน้าจอกลางแบบหมุนได้ขนาด 12.8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมอัพเดทซอฟท์แวร์ได้แบบ OTA ส่วนรุ่น Premium จะได้หน้าจอ 15.6 นิ้วที่ใหญ่กว่า, พอร์ทชาร์จ USB Type C 2 จุด และ Type A 2 จุด, แท่นชาร์จไร้สาย 2 ตำแหน่ง รวมถึงระบบเสียงลำโพง 9 ตำแหน่ง
 
ภายนอก Honda CR-V e:HEV ES
 
สำหรับ Honda CR-V e:HEV ES มาพร้อมดีไซน์แบบสปอร์ต มีการตกแต่งชายล่างสีดำรอบคัน ให้ความเป็นครอสโอเวอร์ กระจังหน้าสีดำ Piano Black ไฟหน้า-ไฟท้าย LED พร้อมระบบปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ด้านข้างของรถมาพร้อมล้ออัลลอย 18 นิ้วสีดำ ให้ความสปอร์ต ด้านท้ายยังคงเอกลักษณ์ของ CR-V ด้วยไฟท้ายบริเวณเสา C ออพชันที่โดดเด่น ได้แก่ หลังคา Panoramic sunroof, ฝาท้ายไฟฟ้า
 

ภายใน Honda CR-V e:HEV ES
 
ส่วนภายในของรถคันนี้มีความกว้างขวาง ในแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง มาในโทนสีดำ ตกแต่งด้วยลายไม้สีเข้มและสีดำ Piano Black, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง, เบาะนั่งหุ้มหนังแท้และหนังสังเคราะห์ โดยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง ส่วนคนนั่งด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง, ระบบปรับอากาศแบบ 2 โซน ซ้าย-ขวา, เบาะหลังสามารถเลื่อนและปรับเอนได้ และพับแบบ 60:40
 
สำหรับระบบความบันเทิงภายใน ไฮไลท์คือ มาตรวัดดิจิทัล 10.2 นิ้ว, ระบบเครื่องเสียงรองรับระบบสัมผัส Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto, รองรับการเชื่อมต่อ Honda CONNECT, ระบบเครื่องเสียงลำโพง 8 ตำแหน่ง, แท่นชาร์จไร้สาย, ช่องชาร์จ USB 4 ตำแหน่ง
 
ถือได้ว่า รถทั้งสองรุ่นมีความน่าใช้พอ ๆ กัน แต่ดูเหมือนว่า BYD จะมีความหวือหวามากกว่าเล็กน้อย ส่วน Honda จะเน้นที่ความคุ้นเคยในการใช้งานมากกว่า

เทียบขุมพลัง BYD Sealion 6 DM-i VS Honda CR-V e:HEV ES
 
สำหรับขุมพลังของทั้งสองนั้นมีความสูสีเพราะมีลักษณะเป็นไฮบริดเหมือนกัน แต่ BYD Sealion 6 จะเป็น PHEV ซึ่งมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า ส่วนของ Honda CR-V e:HEV แม้จะไม่ได้มีแบตเตอรี่สำหรับการวิ่งโหมด EV ได้ไกลนัก แต่มาพร้อมสมรรถนะและความประหยัดที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
 
เครื่องยนต์ BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid
 
Sealion 6 สเปคไทย มาพร้อมขุมพลัง DM-i Super Hybrid ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน "Xiao Yun" 1.5 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังสูงสุด 96.5 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 122 นิวตันเมตร ผสานมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 194.4 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ขับเคลื่อนขนาด 18.3 kWh
 
เมื่อรวมทั้ง 2 ระบบ จะให้กำลังสูงสุด 214.5 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร รองรับการชาร์จแบบ AC Type 2 (กําลังสูงสุด 6.6 kW) รองรับหัวชาร์จแบบ DC CCS 2 (กําลังสูงสุด 18 kW) ระบบ VtoL (Vehicle to Load) ความจุถังนํ้ามัน 45 ลิตร พร้อมโหมดการขับขี่ ECO/Normal/Sport
 
นอกจากนี้ รถคันนี้สามารถขับขี่โหมด EV หรือไฟฟ้าล้วนได้ประมาณ 95 กม./ชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC


เครื่องยนต์ Honda CR-V e:HEV ES
 
CR-V e:HEV ES มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร Direct-injection Atkinson Cycle ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว (มอเตอร์ขับเคลื่อน และ มอเตอร์สร้างกระแสไฟฟ้า) ให้กำลังรวมสูงสุด 207 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุดของมอเตอร์ขับเคลื่อน 335 นิวตันเมตร ที่ 0 – 2,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า
 
เครื่องยนต์นี้ให้อัตราประหยัดเชื้อเพลิงที่ 20.8 กม./ลิตร และอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 113 กรัม/กม. มาพร้อมโหมดการขับขี่ ECON/NORMAL/SPORT และมีระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่แป้นหลังพวงมาลัยเช่นเดียวกับฮอนด้ารุ่นอื่น ๆ
 

Honda ได้เปรียบ BYD เล็กน้อย
 
เมื่อมองจากสเปคแล้วจะพบว่า CR-V ขุมพลัง e:HEV จะได้เปรียบกว่าเล็กน้อย และเมื่อรวมกับน้ำหนักตัว 1,743 กก. เทียบกับ Sealion 6 DM-i ที่กำลังเครื่องยนต์น้อยกว่า แถมมีน้ำหนักนํ้าหนักรถเปล่าที่ 1,850 กก. ก็ยิ่งทำให้ Honda ได้เปรียบ BYD ในเรื่องนี้


เทียบความปลอดภัย BYD Sealion 6 DM-i VS Honda CR-V e:HEV ES
 
ระบบความปลอดภัยของ BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid มีดังนี้
ถุงลมนิรภัยคู่หน้าและถุงลมนิรภัยด้านข้าง – ฝั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ด้านหน้าและด้านหลัง
กล้องมองรอบคัน 360 องศา
เซนเซอร์ด้านหน้าและด้านหลังรวม 6 จุด
ระบบช่วยควบคุมการไหลของรถอัตโนมัติ (AVH)
ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (CC)
ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัจฉริยะ (HBB)
ระบบช่วยกระจายแรงเบรกอัจฉริยะ (HBA)
น่าเสียดายที่ยังไม่มี ADAS มาให้ในรุ่น Dynamic แต่ในรุ่น Premium จะมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS) มาให้แล้ว ดังนี้
ระบบเบรกอัตโนมัติ (AEB)
ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
ระบบแจ้งเตือนคาดการณ์การชนล่วงหน้า (PCW)
ระบบช่วยเตือนการชนด้านท้าย (RCW)
ระบบจดจำป้ายจราจร (TSR)
ระบบเตือนเปลี่ยนเลน (LDW)
ระบบป้องกันรถออกนอกเลน (LDP)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร (LKA)
ระบบแจ้งเตือนจำกัดความเร็วอัจฉริยะ (ISLC)
ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา BSD
ระบบช่วยเตือนเมื่อเปิดประตูรถ (DOW)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control with Stop & Go)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (HMA)
ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้า (DAW)
 
ระบบความปลอดภัยของ Honda CR-V e:HEV ES มีดังนี้
ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (MVCS)
ระบบ Honda LaneWatch
เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด
เสียงเตือนคนภายนอกรถขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (AVAS)
ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
ถุงลมนิรภัย 8 ตำแหน่ง: ด้านหน้า ด้านข้างคู่หน้า มุ่านถุงลมด้านข้าง ถุงลมหัวเข่าคู่หน้า
ระบบ ABS/EBD/VSA
สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ (AHA)
ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติ (Auto Door Lock by Speed)
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมระบบสัญญาณกันขโมย
ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง (TPMS)
ชุดซ่อมยางชั่วคราว (TPRK)
 
นอกจากนี้ ยังมีระบบความปลอดภัย Honda Sensing มาให้ทุกรุ่นย่อย ได้แก่
ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)
ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
 
สำหรับด้านความปลอดภัย ทั้ง Honda CR-V และ BYD Sealion 6 มีความสูสีกันมาก เพราะมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่หรือ ADAS แต่ CR-V จะเสียเปรียบเพราะมีค่าตัวสูงกว่าอย่างชัดเจน
 

สรุป : BYD น่าใช้ แต่ถ้าไม่มั่นใจ ก็เพิ่มเงินมา Honda
 
BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid เปิดตัวในไทยด้วยราคาระดับ B-SUV ที่ 939,900-1,039,000 บาท แต่มาพร้อมขนาด C-SUV ทำให้หลายคนคงอดไม่ได้ที่จะนำรถคันนี้มาเทียบกับ Honda CR-V e:HEV ES เจ้าตลาดที่มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด ขับเคลื่อนล้อหน้าเหมือนกัน ด้วยราคา 1,589,000 บาท ซึ่งแพงกว่าถึง 5.5-6.5 แสนบาท
 
แต่ราคาที่ถูกกว่าของ BYD ก็ย่อมมีสิ่งที่ต้องแลกมา เช่น กำลังเครื่องยนต์, ออพชั่นบางอย่าง ไปจนถึงความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่ยังต้องรอการพิสูจน์
 
อย่างไรก็ตาม หากคิดตามที่มีในปัจจุบัน BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าหากยังไม่พร้อมกับ SUV ไฟฟ้า 100% โดยถือว่าเป็นรถ PHEV ที่ถูกที่สุดในตลาดบ้านเราแล้ว และเหมือนเป็นการซ้อมใช้รถยนต์ไฟฟ้าโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จมากนัก

แต่หากต้องการรถที่ยังให้ความมั่นใจ ให้สมรรถนะที่ดี แถมยังประหยัด พร้อมด้วยความเป็นเจ้าตลาดที่ไว้ใจได้ในระดับหนึ่ง ก็อาจตัดสินใจเลือก Honda CR-V e:HEV ES แต่ต้องจ่ายมากกว่า
 
สำหรับ BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid ถือว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวมากทีเดียวสำหรับตลาด C-SUV มาคอยดูกันว่า ยอดจอง ยอดขายของ Sealion 6 จะตลาดแตกอย่างที่หลายคนคิดไว้หรือไม่