อาหารสุขภาพช่วยลดอาการอ่อนเพลีย ช่วยเติมพลังงานให้ร่างกาย ต่อสู้กับความเหนื่อยล้าช่วงเวลาที่เรารู้สึกไม่สดชื่น ขาดพลังงานหรือเหนื่อยล้า หลายคนก็มักจะหันไปหาเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือขนมหวานเพื่อเพิ่มพลังให้กับตัวเอง บางครั้งอาจเป็นกาแฟ 1 แก้ว เครื่องดื่มชูกำลัง กราโนล่าบาร์ หรือของว่างที่มีน้ำตาล อาหารเหล่านี้สามารถให้พลังงานกับเราในช่วงที่อ่อนเพลียได้ก็จริง แต่อาจให้พลังงานได้ในช่วงแรกเท่านั้น เพราะในไม่ช้าระดับพลังงานที่ได้จากอาหารเหล่านี้ก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว และสุดท้ายเราก็รู้สึกเหนื่อยมากกว่าเดิม ดังนั้นก่อนที่จะหันไปรับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูงแค่ในช่วงแรก หากเราต้องการมีสุขภาพที่ดี การตัดสินใจเลือกอาหารจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ วันนี้เรามาดูกันว่ามีอาหารชนิดไหนบ้างที่ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย และให้พลังงานแก่เราได้อย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งวัน
6 อาหารช่วยลดอาการอ่อนเพลีย
1. ผลไม้และผักสด
ผักและผลไม้สดเต็มไปด้วยสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างราบรื่นและยังช่วยเพิ่มระดับพลังงานได้ด้วย ยิ่งผลไม้หรือผักสดมากเท่าไร ก็ยิ่งดีต่อสุขภาพเท่านั้น นอกจากนี้พลังงานที่ได้รับยังอยู่ในอัตราที่สม่ำเสมอ และช่วยให้ร่างกายรับมือกับงานหนัก และยังเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีได้ รวมถึงยังช่วยป้องกันความเหนื่อยล้าและภาวะซึมเศร้าได้
2. เครื่องดื่มที่ไม่มีคาเฟอีน
กาแฟ 1 - 2 แก้วทุกวันก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อกาแฟกลายเป็นเครื่องดื่มที่ใครๆ ก็ดื่มได้ทุกชั่วโมง มันก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้นแทนที่จะดื่มกาแฟ ลองเปลี่ยนเป็นน้ำผลไม้ มิลค์เชค ชาเขียวหรือสมูทตี้แทนเพื่อช่วยควบคุมระดับพลังงาน รวมถึงยังเป็นการเพิ่มทางเลือกที่มีคุณค่าทางโภชนาการให้หลากหลาย ซึ่งสามารถป้องกันความเหนื่อยล้าได้
3. ธัญพืชและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน
หลายคนเลือกกินอาหารเช้าที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น เบเกิล โดนัท หรืออาหารที่มีแคลอรีสูง ทำให้ระดับพลังงานที่ได้ไม่คงที่ตลอดทั้งวัน แต่หากลองเปลี่ยนมากินข้าวโอ๊ตเป็นอาหารเช้าหรือเลือกรับประทานธัญพืชไม่ขัดสี เช่น แพนเค้กโฮลวีต แซนด์วิชมัลติเกรน หรือควินัว อาหารเหล่านี้มีคาร์โบไฮเดรตคุณภาพดีในปริมาณสูง ซึ่งเหมาะกับการให้พลังงานแก่สมองและกล้ามเนื้อของเรา
4. เห็ด
เห็ดเป็นแหล่งพลังงานที่ดีให้กับร่างกาย อุดมไปด้วยโปรตีนและเส้นใย รวมถึงยังช่วยเติมเต็มสารอาหารที่จำเป็น เช่น โฟเลต กลุ่มวิตามินบี เช่น ไรโบฟลาวิน ไนอาซิน กรดแพนโทธีนิก ฯลฯ ช่วยป้องกันความเสียหายต่อไมโตคอนเดรียซึ่งเป็นขุมพลังของเซลล์ เห็ดยังช่วยต่อสู้กับความเหนื่อยล้าด้วยการให้การสนับสนุนการทำงานของต่อมหมวกไตได้ด้วย
5. ถั่ว
ถั่วอุดมไปด้วยไฟเบอร์ คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน และนั่นจึงทำให้ถั่วกลายเป็นอาหารที่ช่วยต่อสู้กับความเหนื่อยล้า นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยเส้นใยที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่และป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างกะทันหัน
6. มันเทศ
มันเทศเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพเมื่อเรากำลังมองหาคาร์โบไฮเดรตที่ดีที่ช่วยในหารให้พลังงานกับร่างกาย มันเทศมีเส้นใยสูงและอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ซึ่งโพแทสเซียมจะช่วยรักษาสมดุลของอิเล็กโทรไลต์และช่วยร่างกายโดยการลดความดันโลหิต เมื่อร่างกายผ่อนคลายก็จะตอบสนองต่อความเครียดและความเหนื่อยล้าได้ดีขึ้น