แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 14
1
มือถือ Vivo วีโว่ vivo V30 Pro 5G (12GB/512GB)
19,999 บาท 

วีโว่ vivo V30 Pro 5G (12GB/512GB)
ดีไซน์เรียบง่าย แต่สง่างาม
กล้องเลนส์ ZEISS ระดับโปรทั้ง 3
ทุกเลนส์กล้องรับรอง มาตรฐานเลนส์ ZEISS
ออร่าพอร์ตเทรต อัปเกรดใหม่ ใช้ถ่ายภาพพอร์ตเทรต ได้อย่างงดงาม
วิดีโอพอร์ตเทรต ถ่ายสวยด้วยแสงออร่า
ดดเด่นด้วย เสน่ห์ยามค่ำคืน
ครีเอเตอร์สาย Vlogการทำ Vlog ระดับโปร ครบจบในเครื่องนี้

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น             วีโว่ vivo V30 Pro 5G (12GB/512GB)
   ราคากลาง         19,999 บาท
   จำนวนซิม          2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์          จอสัมผัส
   สี                    White(Shell White), Black(Night Sky Black)
   ความถี่-เครือข่าย
2G(GSM 850/900/1800/1900 MHz)
3G(WCDMA B1/B2/B4/B5/B8)
4G(FDD-LTE B1/B2/B3/B4/B5/B7/B8/B12/B17/B18/B19/B20/B26/B28)
5G(n1/n3/n5/n7/n8/n20/n28/n38/n40/n41/n77/n78)

   ขนาด-น้ำหนัก                  ยาว 164.36 x กว้าง 75.1 x หนา 7.45 มม., น้ำหนัก 188 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)  512 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด     -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ      ความจุแบตเตอรี่ 5,000 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ            จอสัมผัส (AMOLED)
   ความละเอียด    6.78 นิ้ว, 452 ppi, 1,260 x 2,800 px
   รายละเอียดอื่น
อัตรารีเฟรช 60 Hz, 120 Hz
ความอิ่มตัวของสี 105% NTSC
วัสดุเปล่งแสง A22 (Q9)
การสัมผัสหน้าจอ Capacitive multi-touch
ความสว่างสูงสุดเฉพาะส่วน 2800 nits
ขอบเขตสี 100% DCI-P3

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด               กล้องหลัง (50 Mpx), กล้องหน้า (50 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                           -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)            MediaTek Dimensity 8200
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)    Mali-G610 MC6
   หน่วยความจำ (RAM)               12.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก               USB(2.0), Bluetooth(5.3), NFC, Wi-Fi(2.4 GHz, 5.1 GHz, 5.5 GHz, 5.8 GHz)
   ระบบรับส่งข้อความ                     -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต             3G, WiFi, 4G, 5G

2
จัดฟันบางนา: อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง หลังจาก ฝังรากฟันเทียม

ในปัจจุบันคนไทยมีปัญหาสุขภาพช่องปากมากเพิ่มมากขึ้น ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากการไม่ดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟัน และทำความสะอาดฟันอย่างไม่ถูกวิธี จนทำให้เกิดการสูญเสียฟัน แล้วการสูญเสีย ก็จะทำให้เกิดปัญหาอีกมากมายตามมามากมาย และจะต้องมีวิธีการรักษาที่ยุ่งยากมาก เช่นการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม

ซึ่งเป็นการทดแทนฟันธรรมชาติ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดีกว่าการใส่ฟันปลอม ที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมแล้วในปัจจุบัน การรักษาด้วยการฝังรากฟันเทียม เป็นการรักษาทางทันตกรรมที่ได้รับความนิยมมาก หลายคนเลือกใช้การฝังรากฟันเทียม แทนการใส่ฟันปลอม เพราะการฝังรากฟันเทียม ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้น และเป็นการใช้งานรากฟันที่เป็นธรรมชาติ เพราะรากฟันเทียมจะถูกฝังลงบนกระดูกขากรรไกร

ซึ่งจะทำให้มีความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่า ทั้งการพูดคุยและการรับประทานอาหาร การรักษาด้วยการฝังรากฟันเทียม ก็มีข้อจำกัดในการรับประทานอาหาร เนื่องจากการฝังรากฟันเทียมลงไปบนกระดูกขากรรไกร ในช่วงแรกจะต้องรับประทานอาหารที่อ่อน เพื่อรอให้รากฟันเทียมประสานกันดีเสียก่อน

หากรับประทานอาหารที่แข็ง อาจจะทำให้เกิดผลเสียตามมา ทำให้เกิดการกระทบกระเทือนถึงรากฟันได้ อาจจะทำให้เกิดการอักเสบ และอาจจะทำให้รากฟันเทียมหลุดได้ ซึ่งจะส่งผลให้ผลการรักษาเกิดความล้มเหลว จึงมีความจำเป็นที่ต้องระมัดระวังในการรับประทานอาหารเป็นอย่างมาก และต้องทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงแล้ว บุหรี่และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ก็ถือเป็นข้อห้ามที่สำคัญมากเช่นกัน เพราะบุหรี่และแอลกอฮอล์ ทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย รวมไปถึงสุขภาพช่องปาก และหลังจากการทำการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมแล้ว ทันตแพทย์จะแนะนำให้ผู้เข้ารับการรักษางดการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะจะส่งผลต่อการรักษาอย่างมาก

อย่างบุหรี่ก็จะทำให้เกิดอาการอักเสบของบาดแผล หรือร้ายแรงไปถึงขั้นเกิดการติดเชื้อได้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็จะส่งผลให้บาดแผลหายช้า และทำให้เลือดไหลไม่หยุดได้ จึงถือเป็นเรื่องต้องห้ามขณะทำการรักษาฝังรากฟันเทียมนั่นเอง หากมีข้อสงสัยในเรื่องของการฝังรากฟันเทียม สามารถเข้าปรึกษาทันตแพทย์ที่ ได้ ทางเรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของรากฟันเทียม ที่พร้อมจะดูแลให้คุณมีสุขภาพช่องปากที่ดี

3
โพสต์ประกาศฟรี / Doctor At Home: ไซนัสอักเสบ (Sinusitis)
« เมื่อ: วันที่ 20 พฤศจิกายน 2024, 13:16:20 น. »
Doctor At Home: ไซนัสอักเสบ (Sinusitis)

ไซนัสอักเสบ (Sinusitis) เป็นภาวะที่เยื่อบุบริเวณโพรงอากาศข้างจมูกเกิดการอักเสบบวมจากการติดเชื้อ ทำให้คัดจมูก มีน้ำมูกข้น ปวดบริเวณจมูก ตา โหนกแก้ม หน้าผาก ฟัน ไอ ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น สามารถเกิดได้ทั้งแบบฉับพลันและเรื้อรัง ซึ่งการรักษาสามารถทำได้โดยการดูแลตนเองร่วมกับใช้ยาตามแพทย์สั่ง

ไซนัส (Sinus) คือ โพรงอากาศบริเวณกระดูกใบหน้า มี 4 คู่ ได้แก่ ไซนัสแมกซิลลา (Maxillary Sinus) อยู่ในกระดูกโหนกแก้ม ไซนัสเอธมอยด์ (Ethmoid Sinus) อยู่ระหว่างเบ้าตาและด้านข้างของจมูก ไซนัสฟรอนตัล (Frontal Sinus) อยู่ในกะโหลกส่วนหน้าผากระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง ไซนัสสฟีนอยด์ (Sphenoid Sinus) อยู่ในกระดูกส่วนที่เป็นฐานสมอง โดยภายในโพรงไซนัสแต่ละจุดจะมีเยื่อบุไซนัสทำหน้าที่ผลิตเมือกสำหรับดักจับฝุ่นและเชื้อโรค

อาการของไซนัสอักเสบ

เนื่องจากไซนัสอักเสบเกิดขึ้นบริเวณเยื่อบุไซนัสที่บริเวณโหนกแก้ม โพรงจมูก และกระดูกหน้าผาก อาการของไซนัสส่วนใหญ่จึงเกี่ยวข้องกับอวัยวะในระบบทางเดินหายใจ ดังนี้

    หายใจติดขัด อึดอัด คัดจมูก
    มีน้ำมูกสีเขียวหรือสีเหลืองข้น
    ประสาทรับกลิ่นไม่ดี
    ปวดบริเวณไซนัส ได้แก่ โหนกแก้ม หน้าผาก จมูกตรงระหว่างคิ้ว หัวคิ้ว และหัวตา
    ปวดฟัน ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น มีกลิ่นปาก
    มีไข้ อ่อนเพลีย
    ไอ เจ็บคอ มีมูกข้นในลำคอหรือมูกไหลลงลำคอ

อาการของไซนัสอักเสบมีระยะเวลาฟื้นตัวและหายดีแตกต่างกันตามชนิดของการอักเสบ คือ

    ไซนัสอักเสบเฉียบพลัน (Acute Sinusitis) มักเกิดร่วมกับโรคหวัด ระยะเวลาป่วย 2–4 สัปดาห์
    ไซนัสอักเสบกึ่งเฉียบพลัน (Subacute Sinusitis) การอักเสบเกิดขึ้นยาวนานประมาณ 4–12 สัปดาห์
    ไซนัสอักเสบเรื้อรัง (Chronic Sinusitis) การอักเสบเกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป มักพบร่วมกับการป่วยโรคภูมิแพ้
    ไซนัสอักเสบซ้ำซ้อน (Recurrent Sinusitis) การอักเสบเกิดขึ้นมากกว่า 3 ครั้งใน 1 ปี โดยแต่ละครั้งมีอาการนานมากกว่า 10 วัน


สาเหตุของไซนัสอักเสบ

ไซนัสอักเสบ เกิดจากเยื่อบุไซนัสติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรียที่ผ่านเข้ามาทางกระบวนการหายใจ จนเนื้อเยื่อเกิดอาการบวม สารคัดหลั่งเมือกเหลวที่ถูกผลิตขึ้นจึงเกิดการอุดตันกลายเป็นหนองอักเสบหรือน้ำมูกเขียวข้น ทำให้เกิดอาการคัดจมูก มีน้ำมูกไหล มีอาการปวดบริเวณไซนัสที่อักเสบ และมีอาการป่วยอื่น ๆ ตามมา

ไซนัสอักเสบมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส พบในอัตรา 90% ของผู้ป่วย หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนหรือการพัฒนาโรคที่รุนแรงขึ้นอาการจะทุเลาลงและหายดีเองภายในประมาณ 10 วัน ในขณะที่การติดเชื้อแบคทีเรียจนทำให้ไซนัสอักเสบจะพบได้ไม่บ่อยนัก ประมาณ 5–10% เท่านั้น และต้องได้รับการรักษาด้วยยาต้านเชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะ มักมีอาการนานกว่า 10 วัน หรืออาการแย่ลงหลังจากเป็นมานาน 5 วัน

ส่วนสาเหตุที่ทำให้อาการอักเสบยังคงอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่ทุเลาลง หรือลุกลามยาวนานจนกลายเป็นไซนัสอักเสบระยะเรื้อรังมีหลายปัจจัย เช่น การป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะภูมิแพ้อากาศและหอบหืด การเกิดเนื้องอกในจมูก การเกิดผนังกั้นช่องจมูกคด การมีภูมิคุ้มกันต่ำ และการสูบบุหรี่

 
การวินิจฉัยไซนัสอักเสบ

การวินิจฉัยอาการไซนัสอักเสบอาจใช้วิธีสังเกตตนเองร่วมกับการตรวจจากแพทย์ ดังนี้
การวินิจฉัยด้วยตนเอง

อาการของไซนัสคล้ายกับอาการของไข้หวัด ผู้ป่วยควรสังเกตว่ามีน้ำมูกอุดตันจนหายใจลำบาก มีมูกข้นในลำคอหรือไหลลงสู่ลำคอ หรือมีอาการปวดตามจุดต่าง ๆ ที่เป็นตำแหน่งของไซนัสหรือไม่

และควรมาพบแพทย์ทันทีหากมีอาการป่วยรุนแรง เช่น มีอาการปวดศีรษะมาก ไข้สูง มองเห็นภาพซ้อนหรือการมองผิดจากปกติ ปวดบวมบริเวณดวงตา จมูก หน้าผาก แก้ม รักษาแล้วแต่อาการไม่ทุเลาลง มีอาการเรื้อรังยาวนานเกินกว่า 10 วัน หรือเคยมีประวัติป่วยด้วยไซนัสอักเสบมาก่อน


การวินิจฉัยโดยแพทย์

ในเบื้องต้นแพทย์จะซักถามอาการและประวัติการป่วยร่วมกับการตรวจร่างกาย โดยอาจพบเยื่อบุโพรงจมูกมีการอักเสบบวมแดงหรือมีหนอง ตรวจมูกหนองในลำคอ และกดตามจุดบริเวณใบหน้าเพื่อตรวจหาตำแหน่งอักเสบของไซนัส

ส่วนการตรวจพิเศษเพื่อให้ทราบผลที่แน่ชัด แพทย์มักใช้วิธีวินิจฉัยภาพที่ได้จาก

    Computed Tomography Scan (CT Scan) แพทย์จะฉีดสารทึบรังสีเข้าไปทางหลอดเลือดดำ แล้วฉายรังสีเอกซ์ให้คอมพิวเตอร์สร้างภาพออกมา โดยในระหว่างการฉายรังสีจะไม่ทำให้ผู้ป่วยเกิดความเจ็บปวด
    Magnetic Resonance Imaging (MRI) เป็นเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า โดยจะส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปกระตุ้นอวัยวะส่วนที่จะตรวจ แล้วสร้างเป็นภาพออกมา เป็นวิธีการตรวจที่มีความละเอียดและความแม่นยำสูง สามารถใช้ตรวจร่างกายภายในได้ทุกระบบ แพทย์จะวินิจฉัยจากภาพที่ได้ว่ามีสารเหลวอยู่ในบริเวณไซนัสหรือไม่และบริเวณใด แล้วเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป

นอกจากนั้น แพทย์ยังอาจใช้การตรวจเลือดเพื่อหาความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Cell) เพื่อดูการทำงานและปริมาณของเม็ดเลือดขาว ตรวจหาอัตราการตกตะกอนของเม็ดเลือดแดง (Erythrocyte Sedimentation Rate, ESR) และตรวจหา C-Reactive Protein ในเลือด

อีกวิธีที่ใช้ตรวจบริเวณโพรงจมูกและไซนัส คือ Nasal Endoscopy เป็นการส่องกล้อง Endoscope โดยแพทย์จะสอดหลอดแก้วนำแสงเข้าไปทางจมูก แล้วตรวจดูจุดต่าง ๆ ว่ามีการอักเสบหรือมีหนองที่ไซนัสหรือไม่ผ่านภาพจากกล้อง


การรักษาไซนัสอักเสบ

การรักษาอาการอักเสบของไซนัสอาจทำได้ด้วยการดูแลตนเองและการเข้ารับการรักษาจากแพทย์ ดังนี้


การดูแลตนเองเบื้องต้น

หากป่วยด้วยไซนัสอักเสบแบบเฉียบพลัน อาการจะทุเลาลงและหายดีภายใน 2–4 สัปดาห์ ในระหว่างนั้นผู้ป่วยสามารถดูแลตนเองที่บ้านได้ ดังนี้

    การใช้ยาที่หาซื้อได้ตามร้านขายยา เช่น กลุ่มยาแก้ปวดและลดไข้ อย่างพาราเซตามอล (Paracetamol) และไอบูโปรเฟน (Ibuprofen) เพื่อช่วยลดไข้และบรรเทาอาการปวดบวมอักเสบ และกลุ่มยาลดน้ำมูกและแก้คัดจมูก (Decongestant) เพื่อช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกหายใจติดขัด อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังของยากลุ่มนี้คือไม่ควรใช้ยาติดต่อกันเกินกว่า 1 สัปดาห์
    การใช้แผ่นประคบร้อน (Warm Pack) ประคบตามจุดต่าง ๆ ที่มีอาการปวดบนใบหน้า ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดและทำให้มูกเหลวที่อักเสบไหลออกมามากขึ้น
    การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ โดยก่อนการล้างจมูกควรล้างมือและอุปกรณ์ทุกชนิดให้สะอาด แล้วใช้กระบอกฉีดยาฉีดน้ำเกลือเข้าโพรงจมูกข้างหนึ่งอย่างช้า ๆ น้ำเกลือจะชะล้างหนองที่อักเสบและสิ่งสกปรกที่ตกค้างภายในโพรงจมูกให้ไหลออกมาทางจมูกอีกข้างหนึ่ง


การรักษาทางการแพทย์

หากเวลาผ่านไประยะหนึ่งแล้ว อาการไซนัสอักเสบยังไม่ทุเลาลง มีอาการไซนัสอักเสบเรื้อรัง หรือเป็นไซนัสอักเสบซ้ำหลายครั้ง ควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาอาการ โดยแพทย์จะมีวิธีการรักษา ดังนี้


การให้ยา

ยาบางชนิดต้องอยู่ภายใต้คำสั่งและการดูแลของแพทย์ ได้แก่ ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก (Nasal Corticosteroids) เป็นยาออกฤทธิ์เฉพาะที่ ใช้พ่นเข้าไปในจมูกเพื่อลดอาการอักเสบ ลดการบวมของเยื่อบุโพรงจมูก มีประสิทธิผลทั้งทางการรักษาและทางการป้องกันการอักเสบ

ในบางกรณี หากสเตียรอยด์แบบสเปรย์รักษาไม่ได้ผล แพทย์จะให้ใช้สเตียรอยด์แบบหยด โดยผสมสเตียรอยด์ในน้ำเกลือที่ใช้ล้างจมูกแทน ผลข้างเคียงของการใช้ยานี้คือ อาจเกิดอาการระคายเคืองจมูก มีเลือดไหลจากจมูก หรือเจ็บคอร่วมด้วย ส่วนยาสเตียรอยด์แบบรับประทานจะใช้ในรายที่มีอาการป่วยรุนแรง และไม่ควรใช้สเตียรอยด์ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน

สำหรับยาลดอาการคัดจมูกแบบรับประทาน เช่น pseudoephedrine และ phenylephrine แพทย์จะจ่ายยาในปริมาณสำหรับรับประทาน 10–14 วัน ยาลดอาการคัดจมูกแบบพ่นหรือหยด เช่น Oxymetazoline และ Hydrochloride ใช้รักษาภายใน 3–5 วัน

ส่วนยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) จะถูกนำมาใช้ในกรณีที่ไซนัสอักเสบจากแบคทีเรีย แพทย์จะให้ยาโดยพิจารณาจากความรุนแรงของโรคเป็นเวลา 10–14 วัน เช่น ยากลุ่ม Amoxicillin, Clarithromycin และ Azithromycin

แต่หากผู้ป่วยต้องอยู่อาศัยในบริเวณที่มีโอกาสติดเชื้อสูง หรืออาการไม่ดีขึ้นหลังรับยาไปแล้ว 2–3 วัน แพทย์จะใช้ยารักษาในขั้นถัดไป เช่น Amoxicillin-clavulanate, Cephalosporins, Macrolides, Fluoroquinolones และ Clindamycin


การผ่าตัด

หากการรักษาวิธีอื่นไม่ได้ผล แพทย์จะใช้การผ่าตัดด้วยวิธี Functional Endoscopic Sinus Surgery (FESS) เป็นการผ่าตัดผ่านทางรูจมูกด้วยกล้องเอ็นโดสโคปซึ่งเป็นกล้องขยายที่มีขนาดเล็ก แพทย์จะใช้เครื่องมือที่ถูกออกแบบมาพิเศษในการผ่าตัดนี้และมองภาพขณะผ่าตัดผ่านกล้อง ผู้ป่วยจะได้รับยาชาหรือยาสลบในขณะผ่าตัดโดยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการป่วย


ภาวะแทรกซ้อนของไซนัสอักเสบ

ไซนัสอักเสบอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ดังนี้

    เกิดภาวะประสาทรับกลิ่นแย่ลง (Hyposmia) หรือสูญเสียประสาทรับกลิ่น (Anosmia) นอกจากการอุดตันของมูกและหนองจะทำให้คัดจมูกหายใจลำบากแล้ว ยังมีผลต่อการรับกลิ่นของเซลล์บริเวณจมูกด้วย
    การติดเชื้อซ้ำซ้อน แม้จะมีภาวะไซนัสอักเสบไปแล้ว แต่บริเวณเยื่อบุไซนัสอาจอักเสบซ้ำได้ด้วยสาเหตุอื่น หรือการอักเสบอาจเกิดขึ้นกับไซนัสบริเวณอื่น ซึ่งจะเป็นผลให้อาการป่วยทรุดลงหรือพัฒนาไปสู่ภาวะไซนัสอักเสบเรื้อรัง
    ต่อมน้ำลายอุดตัน เป็นผลพวงมาจากการอุดตันของหนองอักเสบในไซนัส หากไม่ได้รับการรักษา อาจเกิดการติดเชื้อลุกลามไปยังโครงสร้างอื่น ๆ ที่ใกล้เคียง
    การติดเชื้อที่อวัยวะและโครงสร้างเซลล์บริเวณใกล้เคียงกับไซนัส เป็นกรณีที่อาจเกิดขึ้นได้แต่ไม่บ่อยนักแต่จัดว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น การอักเสบที่ดวงตา เส้นเลือดอักเสบ เซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ การอักเสบของกระดูกและไขกระดูก


การป้องกันไซนัสอักเสบ

การป้องกันไซนัสอาจเสบอาจทำได้โดยการปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้

    ป้องกันตนเองจากไข้หวัด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการป่วยไซนัสอักเสบ โดยสามารถทำได้ด้วยการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง สร้างภูมิต้านทานโรคที่ดี รักษาสุขอนามัย ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ และหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้หรือสัมผัสผู้ที่กำลังป่วยด้วยโรคไข้หวัด
    หลีกเลี่ยงฝุ่นควันและมลภาวะ เมื่อต้องออกนอกบ้านหรือเดินทางในพื้นที่เสี่ยงต่อมลภาวะ ควรใช้ผ้าปิดปากและจมูก เมื่ออยู่ในบ้านก็ควรทำความสะอาดกำจัดฝุ่นและขนสัตว์อยู่เสมอ และหากป่วยเป็นภูมิแพ้ก็ควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้หรือสัมผัสสารที่ตนแพ้ด้วย
    ไม่สูบบุหรี่หรืออยู่ใกล้คนที่กำลังสูบบุหรี่ เพราะควันและสารพิษจากบุหรี่จะทำให้เกิดการระคายเคืองในเนื้อเยื่อจมูกและไซนัส ทำให้เกิดการอักเสบตามมา
    รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เช่น พืชผักผลไม้และอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างส้ม องุ่น ถั่ว ผักคะน้า หัวมัน ธัญพืช เนื้อปลา

4
โพสต์ประกาศฟรี / มอเตอร์เอ็กซ์โปร์: โอร่า ORA Good Cat Pro ปี 2024
« เมื่อ: วันที่ 19 พฤศจิกายน 2024, 19:44:47 น. »
มอเตอร์เอ็กซ์โปร์: โอร่า ORA Good Cat Pro ปี 2024
629,000 บาท 

โอร่า ORA Good Cat Pro ปี 2024
ORA Good Cat PRO เจ้าเหมียวไฟฟ้าขวัญใจชาวไทย ถือเป็นรถยนต์รุ่นแรกของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่จะเริ่มทำการผลิตจากโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) เพื่อส่งออก ขายสู่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าไทย โดยจะมากับสีภายนอก 5 สี ได้แก่ สีเขียว (Pistachio Green), สีเขียวพร้อมหลังคาสีขาว (Verdant Green with Hamilton White Roof), สีเบจพร้อมหลังคาสีน้ำตาล (Hazel Wood Beige with Wisdom Brown Roof), สีขาวพร้อมหลังคาสีดำ (Hamilton White with Black Roof) และ สีขาว (Hamilton White)ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ หรือ 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมความสามารถการกู้คืนพลังงาน (Energy Recovery) ได้สามระดับ ได้แก่ น้อย, มาตรฐาน และมาก เพื่อการประหยัดพลังงาน

หมายเหตุ จากราคา 799,000 บาท เหลือเพียง 629,000 บาท

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์           ORA
   รุ่น                โอร่า ORA Good Cat Pro ปี 2024
   ประเภทรถ       รถเก๋ง 5 ประตู, Electric - EV
   ปีที่เปิดตัว        2024
   ราคา             629,000 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
ซันรูฟ (เปิดได้)
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว
ไฟตัดหมอก (หลัง)
ระบบควบคุมระยะการจอด (หลัง 4 จุด)
ไฟท้าย LED (Tail Light Strip)
ขนาดยางหน้า-หลัง (215/50 R18)
ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบพิเศษ (อัตโนมัติ)
ไฟหน้า LED (อัจฉริยะ พร้อมระบบ เปิด-ปิดอัตโนมัติ)
หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า)
ไฟ Daytime Running Lights
ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์
ล้ออัลลอย (18 นิ้ว)

   ภายใน
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์
พวงมาลัยหุ้มหนัง
พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้
ภายในโทนสีดำ
ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ (5 รูปแบบ มาตรฐาน/Sport/ECO/ECO+/อัตโนมัติ)

สเปค
   มอเตอร์ไฟฟ้า          มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์หรือ 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)       แรงม้า
   ระบบเกียร์                        1 จังหวะ
   รูปแบบเกียร์                      ก้านเปลี่ยนเกียร์เกียร์อัตโนมัติแบบใหม่ด้านข้างพวงมาลัย
   ระบบเบรค ABS                 มี
   ชนิดแบตเตอรี่                    ไฟฟ้า
   ความจุแบตเตอรี่                  57.7 kWh
  ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง     แบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) มีระยะทางวิ่ง สูงสุด 480 กิโลเมตร (NEDC Standard)
   น้ำหนักตัวรถ                         -
   ประเภทยางรถยนต์                  -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)                       ล้ออัลลอย (18 นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน                      ขับเคลื่อนล้อหน้า

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย 
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP)
ตัวถังนิรภัย
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
เซ็นทรัลล็อค
สัญญาณกันขโมย
ไฟเบรกดวงที่ 3
สัญญาณเตือนถอยหลัง (เมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง CTA)
รีโมทคอนโทรล (Smart Keyless Entry และระบบ Quick Start System)
ระบบป้องกันการโจรกรรม
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอื่นๆ (Intelligent Safety,ระบบจอดรถด้วยเกียร์ N,ระบบตรวจสอบสถานะผ่านแอปพลิเคชั่น,การควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน)
เข็มขัดนิรภัย
คานเหล็กเสริมนิรภัย
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน
อื่นๆ (ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินบนทางตรงและทางแยกและคนเดินเท้า, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ, ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า, รบบช่วยเบกฉุกฌฉินที่ความเร็วต่ำ, ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง ฯลฯ)
ระบบ intelligence around view monitor กล้องมองภาพรอบทิศทาง
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล
ระบบสั่งการด้วยเสียง
ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (ที่ความเร็วตํ่า, ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน)
กล้อง
เทคโนโลยีช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HSA (ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง,ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการชนครั้งที่ 2)
เบรกมือไฟฟ้า (พร้อมฟังก์ชันหยุดอัตโนมัติขณะรถหยุดนิ่ง)
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX)

5
ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ







6
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



7
ตรวจอาการด้วยตนเอง: โรคพยาธิปากขอ (Hook worm disease)

โรคพยาธิปากขอเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อพยาธิปากขอ*ที่อยู่ตามพื้นดิน

โรคนี้พบได้ทุกภาคของประเทศ แต่จะพบในภาคใต้มากกว่าภาคอื่น ๆ มักพบในชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน และเด็ก ๆ ที่เดินเท้าเปล่าบนพื้นดิน หรือในเด็กที่ชอบเล่นคลุกดิน

*วงจรชีวิตของพยาธิปากขอ

พยาธิปากขอ (Ancylostoma duodenale และ Necator americanus) มีขนาดยาวประมาณ 1 ซม. เกาะอาศัยอยู่บนผนังลำไส้ และดูดเลือดจากบริเวณนั้น ไข่พยาธิจะหลุดออกมากับอุจจาระ ซึ่งจะเจริญเติบโตบนพื้นดินที่ชื้นและมีความอุ่น พยาธิตัวอ่อนที่ฟักตัวบนดินจะไชเข้าทางผิวหนังของคนที่เดินผ่านไปมาหรือเด็กที่เล่นคลุกดิน เข้าไปในกระแสเลือด ไปยังหัวใจและปอด จากปอดพยาธิจะเคลื่อนตัวขึ้นมาที่หลอดลมจนถึงคอหอย แล้วจะถูกกลืนลงหลอดอาหารเข้าไปในกระเพาะและลำไส้เล็ก แล้วเจริญเป็นตัวแก่ต่อไปในลำไส้เล็ก นอกจากนี้ ถ้ากินอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนพยาธิตัวอ่อนระยะติดต่อ พยาธิอาจไชผ่านเยื่อบุในปากและเข้ากระแสเลือดได้เช่นกัน

วงจรชีวิตพยาธิปากขอ


สาเหตุ

การติดต่อของโรคนี้ เกิดจากพยาธิปากขอตัวอ่อนที่อยู่บนพื้นไชเข้าเท้าของผู้ที่เดินเท้าเปล่า หรือเกิดจากกินพยาธิตัวอ่อนระยะติดต่อที่ปนเปื้อนอาหารหรือน้ำดื่ม

อาการ

เมื่อพยาธิไชเข้าเท้า อาจทำให้มีตุ่มแดงคันที่ผิวหนังในบริเวณนั้น ผู้ป่วยอาจเกาจนเป็นหนอง เมื่อพยาธิเดินทางผ่านปอดใน 1-2 สัปดาห์ต่อมา อาจทำให้มีอาการหลอดลมหรือปอดอักเสบได้

แต่อาการที่พบบ่อย คือ จุกเสียดแน่นที่ยอดอก ปวดท้อง หรือท้องเดิน ถ้ามีจำนวนพยาธิมาก จะทำให้มีอาการซีด มึนงง หน้ามืด อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด และถ้าซีดมาก ๆ อาจทำให้มีอาการบวมหรือหัวใจวายได้

อาการมากน้อยขึ้นกับจำนวนพยาธิที่มีอยู่ในลำไส้ (อาการซีดจะเกิดขึ้นเมื่อมีพยาธิมากกว่า 100 ตัวขึ้นไป) อายุของพยาธิ ความต้านทาน และภาวะทางโภชนาการของผู้ป่วย


ภาวะแทรกซ้อน

ที่พบบ่อย คือ โลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก เนื่องจากการเสียเลือดเรื้อรัง หากปล่อยปละละเลยจนมีภาวะโลหิตจางรุนแรง อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจวายได้

อาจทำให้ขาดอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งขาดสารโปรตีน ซึ่งหากขาดโปรตีนรุนแรงอาจทำให้ท้องมาน (มีน้ำในท้อง) ได้

เด็กที่เป็นโรคพยาธิปากขอเรื้อรัง อาจทำให้ร่างกายเจริญเติบโตช้า และสติปัญญาพร่อง เนื่องจากการขาดโปรตีนและธาตุเหล็กเรื้อรัง


การวินิจฉัย

การวินิจฉัยที่แน่ชัด คือ การตรวจอุจจาระจะพบไข่พยาธิ บางรายแพทย์จะทำการตรวจเลือดดูภาวะโลหิตจาง

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

    ให้ยาฆ่าพยาธิ เช่น มีเบนดาโซล หรืออัลเบนดาโซล
    ถ้าซีด ให้กินยาบำรุงโลหิตติดต่อกัน 4-6 เดือน
    ในรายที่มีภาวะหัวใจวายจากภาวะโลหิตจางรุนแรง แพทย์จะรับตัวไว้ในโรงพยาบาล ให้เลือด และให้ยารักษาภาวะหัวใจวาย

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการจุกเสียดแน่นยอดอก ปวดท้อง หรือท้องเดินบ่อย หรือมีอาการอ่อนเพลีย และหน้าตาซีดเซียว ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคพยาธิปากขอ ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 1-2 สัปดาห์
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

    ถ่ายอุจจาระลงในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ
    สวมรองเท้าถ้าต้องเดินบนดิน (ไม่เดินเท้าเปล่า)
    หลีกเลี่ยงการเล่นคลุกบนดินทราย
    ดื่มน้ำสุกหรือน้ำสะอาด และกินอาหารที่ปรุงสุกและร้อน

ข้อแนะนำ

1. ผู้ป่วยที่มีอาการซีดเนื่องจากภาวะขาดธาตุเหล็ก ถ้าหากอยู่ในพื้นที่ที่มีพยาธิปากขอชุกชุม นอกจากให้ยาบำรุงโลหิตแล้ว ควรให้ยาฆ่าพยาธิปากขอร่วมด้วย

2. ผู้ที่สงสัยว่าเป็นโลหิตจางจากภาวะขาดธาตุเหล็ก ให้ยาบำรุงโลหิตแล้วไม่ทุเลา ควรตรวจหาว่ามีสาเหตุจากอะไร รวมทั้งการตรวจอุจจาระดูว่าเป็นโรคพยาธิปากขอหรือไม่

8
ขายรถผู้บริหาร Volvo XC40 Twin Motor รับส่วนลดเพิ่มอีก 5,000 บาท

วอลโว่ Volvo XC40 Recharge Pure Electric Twin Motor ปี 2023
Volvo XC40 Recharge Pure Electric ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไออน 82 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ไกลถึง 645 กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ NDEC) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตร/ชม.

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 29 ต.ค. - 30 พ.ย. 2567
รับส่วนลดเพิ่มอีก 5,000 บาท เมื่อแจ้งว่าติดต่อจาก CheckRaka
ประกันภัยชั้น 1 + กล้อง DVR + MW

ราคาพิเศษ 2,090,000 บาท

สนใจสอบถามรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์               Volvo
   รุ่น                   วอลโว่ Volvo XC40 Recharge Pure Electric Twin Motor ปี 2023
   ประเภทรถ          รถอเนกประสงค์ SUV, Electric - EV
   ปีที่เปิดตัว           2023




9
townhome ไอลีฟ ไพร์ม รามอินทรา-คู้บอน (I Leaf Prime Ramintra-Kubon)
เริ่มต้น 2.79 ลบ. 

ไอลีฟ ไพร์ม รามอินทรา-คู้บอน (I Leaf Prime Ramintra-Kubon)
ทาวน์โฮม สไตล์ English Garden ติดห้าง Jas Green Village เพียง 200 เมตร บนทำเลที่เชื่อมต่อได้ทุกการเดินทาง รายล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ และห้างสรรพสินค้า ออกแบบฟังก์ชั่นได้อย่างครบครัน วางตำแหน่งห้องนอน ทั้ง 4 ห้อง ได้อย่างลงตัว เหมาะกับทุก Generations พร้อมคลับเฮ้าส์ ฟิตเนส และพื้นที่สวนสีเขียว

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ            ไอลีฟ ไพร์ม รามอินทรา-คู้บอน (I Leaf Prime Ramintra-Kubon)
 เจ้าของโครงการ       กานดา พร็อพเพอร์ตี้
 ราคา                    เริ่มต้น 2.79 ลบ.

 ประเภทบ้าน          ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม (Townhouse Townhome)
 ลักษณะทำเล         บ้านใกล้เมือง
 พื้นที่โครงการ        19 ไร่
 จำนวนบ้าน           194 หลัง
 แบบบ้านทั้งหมด     1 แบบ
  เนื้อที่บ้าน           โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 พื้นที่ใช้สอย         ตั้งแต่ 125 ถึง 144 ตร.ม.
 จำนวนชั้น            2 ชั้น
 หน้ากว้าง           โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้องนอน    4 ห้อง
 จำนวนที่จอดรถ    2 คัน
 สาธารณูปโภค       สวนสาธารณะ, คลับเฮาส์, ฟิตเนส, รปภ., CCTV, Keycard System

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน          คลองสามวา
 ที่ตั้ง          ซอยคู้บอน 40 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. 10510

 ขนส่งสาธารณะ         โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
Jas Green Village Kubon
Max Value Kubon
Fashion Island
ตลาดนัดพระพรหมคลอง2
ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา
ซาฟารีเวิร์ล
สวนสยาม
โรงเรียนนานาชาติ ร่วมฤดี
โรงเรียนสาธิตพัฒนา
โรงเรียนนวมินทราชูทิศ เบญจมราชาลัย
โรงเรียนสายอักษร
โรงพยาบาลอินทรารัตน์
โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา
โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์

10
การลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนจากการใส่สายยางให้อาหารสายยาง

เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าการทำกิจกรรมการพยาบาลทุกๆกิจการจะสามารถเกิดภาวะแทรกซ้อน อุบัติเหตุ หรือความเสี่ยงต่างๆได้ หากเราพูดถึงการใส่สายยางให้อาหารแก่ผู้ป่วย เป็นกิจกรรมการพยาบาลที่ดูง่ายขั้นตอนไม่ยุ่งยากมากนัก แต่หัตถการการใส่สายยางให้อาหาร เป็นกิจกรรมการพยาบาลที่พบบ่อยได้ในโรงพยาบาลและมีความเสี่ยงหรือมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆได้ เนื่องจากเป็นวิธีการใส่สายยางเข้าผ่านรู้จมูกลงสู่กระเพาะอาหาร สามารถทำให้เกิดไซนัสอักเสบ การระคายเคืองท่อบุทางเดินหายใจ หรือแม้แต่สายยางทะลุหลอดอาหาร ทางเดินหายใจอุดกั้น เป็นต้น


ความเสี่ยงทั้งหลายเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นมาตั้งแต่ขณะใส่และถอดสายยางให้อาหาร แม้จะมีความเสี่ยงเหล่านี้ไม่มากนัก แต่เมื่อพบว่าหากเกิดขึ้นแล้วมีโอกาสความรุนแรงถึงขั้นสามารถทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ ดังนั้นผู้ดูแลหรือพยาบาลจำเป็นจะต้องลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ จะต้องเชี่ยวชาญในวิธีการใส่ขั้นตอนความสะอาดเป็นหลักสำคัญ เพื่อลดความเสี่ยงลดอัตราการเจ็บป่วยอัตราการเสียชีวิต เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับแผนการรักษาของแพทย์ให้ครบถ้วน ในการเกิดความเสี่ยงในปัจจุบันจากการสายยางให้อาหารผ่านรูจมูกนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงจัดการใส่ผิดตำแหน่งแล้วทำให้เกิดอันตราย เช่น ปอดอักเสบจากการสำลักแต่เพียงอย่างเดียว แต่การใส่สายยางให้อาหารมีโอกาสเกิดความเสี่ยงเป็นอันตรายได้ตั้งแต่ในขณะใส่และถอดสายยางได้

แม้ว่าเราจะพบว่าความเสี่ยงนั้นเกิดขึ้นค่อนข้างได้น้อย พยาบาลหรือผู้ดูแลจึงเป็นผู้ที่มีบทบาทและหน้าที่สำคัญในการป้องกันความเสี่ยงดังกล่าวเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความปลอดภัยตลอดการรักษาพยาบาล เนื่องจากวัตถุประสงค์หลักของการใส่เสียงให้อาหารต้องการให้ผู้ป่วยได้รับอาหารน้ำและยาได้ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ หรือลดแรงดันในกระเพาะอาหารลำไส้โดยเฉพาะในรายที่มีลมในกระเพาะอาหารมาก และยังเพื่อดูดเอาสารตกค้างหรือสารผนังในกระเพาะอาหารไปตรวจ และเพื่อนสวนล้างกระเพาะอาหารในกรณีผู้ป่วยกินสารพิษเข้าไป วันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการลดความเสี่ยงเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนคนต่างแก่ผู้ป่วยที่อาจสามารถเกิดขึ้นได้

การลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการสายยางให้อาหารทางจมูกนั้น เริ่มต้นจากพิจารณา เหตุผลในการใส่ สายยางให้อาหารว่าเหมาะสมกับผู้ป่วยหรือไม่ เพื่อป้องกันผู้ป่วยได้รับความเสี่ยงที่เกินความจำเป็น เช่น การระคายเคืองเยื่อบุโพรงจมูก หรือภาวะแทรกซ้อนต่างๆที่จะสามารถตามมาได้หลังใส่สายยางให้อาหารแล้ว ถัดมาบันทึกข้อมูลต่างๆในการทำการให้การแก่ผู้ป่วยรายละเอียดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการประเมินผู้ป่วยก่อนที่จะใส่สายยางให้อาหารหรือหลังให้สายยางให้อาหารแล้ว

และที่สำคัญเหตุผลที่จำเป็นจะต้องใส่สายยางให้อาหารแก่ผู้ป่วย หากเกิดปัญหาขณะใส่สายยางให้อาหารเกิดเหตุการณ์ดันสายยางลงไปไม่ได้จะต้องไม่ควรพยายามดันลงไป ควรถอดสายออกมาก่อนและให้ผู้ป่วยพักหากผู้ป่วยมีอาการเจ็บก็รอให้ผู้ป่วยหายจากอาการเจ็บ จึงสามารถใส่อีกครั้งได้ เนื่องจากการฝืนการใส่สายยางให้อาหารหากมีอาการติดขัดอาจจะเข้าไปในทางกล่องเสียงสามารถเข้าปอดได้


และตรวจสอบเสมอว่าสายยางให้อาหารนั้นอยู่ในกระเพาะอาหารหรือไม่ก่อนที่จะให้อาหาร ก่อนการให้ยา หลังพบอาการไอ อาเจียนหรือเกร็ง พบว่าพลาสเตอร์หลุดออกจากสายยางที่แปะกับจมูก หรือแม้แต่พบว่าสายยางที่ออกมาจากผู้ป่วยยาวมากกว่าปกติ และพบอาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจที่เกิดขึ้นใหม่หรือไม่สามารถอธิบายได้ หรือแม้แต่เมื่อบ่นว่าไม่สุขสบายและรู้สึกมีอาหารขย้อนขึ้นมาในปากหรือคอ สิ่งที่ควรระมัดระวังถัดมาคือไม่ให้ล้มผ่านเข้าสู่ร่างกายทางสายยางให้อาหาร เพื่อป้องกันภาวะท้องอืดท้องแน่น ควรเปลี่ยนสายยางให้อาหารอย่างน้อยทุก 1 เดือน พร้อมกับเปลี่ยนข้างรูจมูกใหม่ และควรเปลี่ยนพลาสเตอร์ที่แปะที่จมูกทุกวัน


เมื่อพยาบาลหรือผู้ดูแลนั้นตระหนักถึงความเสี่ยงและอันตรายที่สามารถเกิดขึ้นได้ ภาวะแทรกซ้อนต่างๆก็จะเกิดขึ้นได้น้อยเนื่องจากมีการป้องกันในขั้นตอนต่างๆ ในการดูแลผู้ป่วยนั้นไม่เพียงแค่ให้ผู้ป่วยได้รับแผนการรักษาที่ครบถ้วนแต่จะต้องมีการป้องกันสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด การหมั่นตรวจสอบ มันเช็ค หรือขอดูอาการคนไข้เสมอ เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับการดูแลผู้ป่วย

11
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



12
ขายรถราคาพิเศษ Honda CR-V 1.5 ES 4WD ปี2023 ไมล์น้อย พร้อมข้อเสนอพิเศษ

ฮอนด้า Honda CR-V ES 4WD ปี 2023
HONDA CR-V ES 4WD สปอร์ตพรีเมียม เจเนอเรชันที่ 6 กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีดำ Piano Black และกระจังหน้าสีดำ Piano Black ตกแต่งด้วยโครเมียม (เฉพาะรุ่น E) กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ไฟท้ายแบบ LED เปิดมุมมองใหม่ที่พรีเมียมยิ่งขึ้นกับหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-Free Power Tailgate with Walk Away Close) เสาอากาศครีบฉลาม ปลอกท่อไอเสียสเตนเลสคู่ ล้ออัลลอย 18 นิ้ว

เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) และมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร* (รุ่น E) และรองรับน้ำมัน E85

โดยมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD และ e:HEV ES สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD สีขาวแพลทินัม (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก)

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 1 พ.ย. - 31 ธ.ค. 2567
ฟรี ประกันหลังการขาย เครื่อง เกียร์ (ส่งซ่อมห้าง) 1 ปี / 10,000 กม.
ฟรี บริการเซ็นเอกสารจัดไฟแนนซ์ถึงบ้านทั่วไทย

ราคาพิเศษ 1,335,000 บาท

สนใจสอบถามรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์          Honda
   รุ่น               ฮอนด้า Honda CR-V ES 4WD ปี 2023
   ประเภทรถ      รถอเนกประสงค์ SUV, รถไฮบริด
   ปีที่เปิดตัว       2023


13
จัดฟันบางนา: ทันตกรรมเด็ก ดูแลฟันเด็ก ในแต่ละช่วงอายุ ตั้งแต่แรกเกิด ถึง 18 ปี !

ฟัน ถือได้ว่าเป็นอวัยวะที่สำคัญอันดับต้นๆ ที่ใช้งานหนักที่สุดในชีวิตตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยชรา แต่ก็มีหลายๆคนที่เริ่มหันมาเห็นความสำคัญและดูแลเมื่อสายไปเสียแล้ว

ช่องปากก็เช่นกัน หลายคนละเลยทั้งที่แท้จริงควรเริ่มดูแลตั้งแต่แรกเกิด เพื่อไม่ให้เกิดการส่งต่อปัญหาช่องปากในระยะยาว งานวิจัยเกี่ยวกับทันตกรรมมากมายชี้ชัดว่าการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันอย่ารอควรเริ่มทำตั้งแต่แรกเกิดอย่างสม่ำเสมอ

หลายๆคนที่มีบุตรหลานที่ยังอยู่ในวัยเด็กเล็กส่วนใหญ่จะคิดว่าค่อยไปดูแลฟันและช่องปากอย่างจริงจังเมื่อเริ่มมีฟันแท้ แต่หารู้ไม่ว่าเริ่มตอนนั้นอาจจะสายไป เพราะ ฟันน้ำนมมีค่ามากกว่าจะถูกละเลย

โดยในวันนี้ Clinic จะขอแนะคำคุณผู้อ่านให้ได้รู้จักเคล็ดลับการดูแลช่องปากและฟันของบุตรหลานท่านให้มีสุขภาพที่ดีในแต่ละช่วงอายุตั้งแต่วัยแรกเกิดจนกระทั่งถึงอายุ 18 ปี โดยมีดังต่อไปนี้

ทันตกรรมเด็ก และวิธีการดูแลช่องปากและฟัน

– แรกเกิด ถึง 2 ปี
ในช่วงวัยนี้ต้องขอบอกเลยว่า บุตรหลานอาจจะไม่มีฟันน้ำนมขึ้น แต่การดูแลสุขภาพเหงือกและช่องปากก็ยังถือได้ว่าสำคัญอยู่ดี เพราะบุตรหลานต้องดื่มนม และหากว่าไม่ได้ทำความสะอาดช่องปาก ก็อาจจะก่อให้เกิดแบคทีเรียในช่องปากได้ วิธีทำความสะอาดที่ดีในวัยนี้ก็คือ การเอาผ้านุ่มๆชุบน้ำหมาดๆเช็ดที่เหงือกเพื่อขจัดคราบน้ำนมที่เกาะตามเหงือกของบุตรหลานท่าน

– ช่วงอายุ 2 ปี ถึง 4 ปี
ในช่วงนี้ บุตรหลานของท่านจะมีฟันน้ำนมขึ้นครบทั้ง 20 ซี่ และเริ่มรับประทานอาหารได้หลากหลายขึ้น จึงเป็นช่วงเวลาที่ควรให้บุตรหลานของท่านเริ่มรู้จักการแปรงฟันที่ถูกต้อง

โดยการสอนลูกให้แปรงฟันเป็นแนวตั้ง ปัดขึ้นลงโดยใช้เวลาในการแปรงฟันให้ทั่วปากประมาณ 2 นาที โดยให้ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์โดยให้ใส่แค่พอชื้น และเมื่อมีอายุครบประมาณ 3 ปีแล้ว ให้เพิ่มปริมาณยาสีฟันให้มีขนาดเท่าเมล็ดถั่ว โดยแปรงอย่างละเอียดทุกซี่ โดยแปรงวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
ซึ่งในช่วงอายุประมาณนี้บุตรหลานจะยังไม่สามารถแปรงฟันเองให้สะอาดได้ ผู้ปกครองจึงควรมีส่วนร่วมในการแปรงฟันให้ โดยการโอบข้างหลังแล้วยื่นแปรงสีฟันไปข้างหน้าแล้วจับมือบุตรหลานแปรงฟันอย่างละเอียดทุกซี่ เพื่อให้เขาลูกสึกเคยชินกับการแปรงฟัน พยายามทำแบบนี้จนกว่าบุตรหลานจะเริ่มแปรงฟันเองได้อย่างสะอาดไม่มีคราบเหนียวๆลื่นๆสีขาวอมเหลืองติดฟัน

– ช่วงอายุ 5 ปี ถึง 6 ปี
ในช่วงวัยนี้เด็กๆอาจจะเริ่มมีฟันแท้ขึ้น นั่นก็คือ ฟันหน้าล่าง ส่วนฟันน้ำนมจะเริ่มโยก และจะเริ่มมีฟันกรามแท้โผล่ขึ้นมาเป็นซี่สุดท้ายถัดจากฟันกรามน้ำนมที่มีอยู่แล้ว ซึ่งการแปรงฟันจะต้องละเอียดกว่าเดิมสำหรับด้านในปาก
ซึ่งในช่วงวัยนี้เด็กๆควรที่จะเริ่มแปรงฟันได้ด้วยตัวเองอย่างสะอาดแล้ว โดยเมื่อแปรงเสร็จให้ผู้ปกครองตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้งอย่างละเอียด เมื่ออายุได้ 6 ปี เด็กๆควรหันมาใช้ยาสีฟันผู้ใหญ่ โดยบีบยาสีฟันประมาณ 1 ซ.ม. โดยใช้เวลาแปรงฟันครั้งละ 2 นาที วันละ 2 ครั้ง

– ช่วงอายุ 7 ปี ถึง 8 ปี
ในช่วงวัยนี้ถือว่าต้องรักษาความสะอาดเป็นพิเศษ ควรแปรงฟันแบบตั้งฉากถูกไปมาขยับสั้นๆให้ทั่วทุกซอกและซี่ฟัน และเป็นช่วงวัยที่นิยมขนมหวาน จึงควรให้ลูกเลือกรับประทานและสอนให้รู้ถึงพิษภัยของฟันผุ และควรแปรงวันละ 2 ครั้ง เช้ากับก่อนนอนทุกวันเป็นประจำ
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากๆ คือ พบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน เป็นอย่างน้อย เพื่อประเมินสุขภาพช่องปากและฟัน

-ช่วงอายุ 11 ปี ถึง 18 ปี
ในวัยนี้เริ่มมีการเจริญเติบโตของใบหน้าอย่างรวดเร็ว อาจจะทำให้เด็กๆมีปัญหาเรื่องฟันสบกัน ซึ่งถ้าหากมีปัญหาเรื่องนี้ให้รีบเข้าพบทันแพทย์เพื่อจัดฟันในเด็ก ที่นิยมและทันสมัยในตอนนี้คือ EF Line ซึ่งจะมีส่วนช่วยเรื่องฟันสบกัน แล้วทำให้ใบหน้าเข้ารูปอีกด้วย แต่ควรรีบมาก่อนที่การเจริญเติบโตของกระดูกกรามจะหยุดโตเพราะอาจจะสายเกินไป

14
ดอกบัวอบแห้ง: 5 ขั้นตอนการทำดอกไม้อบแห้ง

สำหรับผู้ที่ต้องการถนอมดอกไม้ของคุณให้ยาวนาน อย่างการทำ “ดอกไม้อบแห้ง” ในวันนี้มี 5 ขั้นตอนดีๆในการทำดอกไม้อบแห้งมาฝากกัน มาติดตามกันได้เลยค่ะ

1.    เลือกดอกไม้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม

อันดับแรกที่คุณจะต้องคำนึงถึงนั่นก็คือการเลือกดอกไม้ ซึ่งคุณสามารถเลือกดอกไม้ได้ทุกชนิด โดยเฉพาะดอกไม้ที่มีก้าน เช่น ดอกทานตะวัน, ดอกสแตติช, ดอกยิบโซ, ดอกกุหลาบ ฯลฯ โดยควรใช้ดอกไม้ที่สดและบานสะพรั่งอย่างเต็มที่ เนื่องจากหากคุณใช้ดอกไม้ที่แก่จนเกินไป อาจจะทำให้ดอกไม้ช้ำและร่วงโรยได้ง่าย


2.    มัดรวมเป็นช่อ

ลำดับถัดมาคือการมัดรวมดอกไม้ในแต่ละชนิดให้เป็นช่อ โดยดึงใบบริเวณกิ่งก้านออกให้หมด และทำการมัดด้วยหนังยาง ซึ่งคุณไม่ควรรัดแน่นจนเกินไป เนื่องจากอาจจะทำให้ก้านดอกงอและเน่าได้


3.    นำช่อดอกไม้แขวนคว่ำลง

หลังจากที่คุณมัดรวมดอกไม้ด้วยหนังยางในแต่ละช่อเรียบร้อยแล้ว ลำดับถัดมานั่นก็คือขั้นตอนการนำดอกไม้ไปแขวนในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้อย่างสะดวก ทั้งบริเวณคานบ้านหรือบริเวณเหนือประตูบ้าน โดยควรเว้นระยะให้ลมผ่านอย่างน้อย 10 เซนติเมตรจากเพดาน เนื่องจากจะทำให้ดอกไม้ของคุณนั้นแห้งและเป็นการป้องกันเชื้อราได้ดีอีกด้วย


4.    ใช้เวลารอประมาณ 1 เดือน

เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 4 สัปดาห์หรือ 1 เดือน ดอกไม้ของคุณจะแห้ง และพร้อมที่จะนำมาประดับตกแต่งได้แล้ว แต่ก็อาจจะมีดอกไม้บางชนิดที่อาจจะใช้เวลานานกว่านั้น เช่น ดอกทานตะวันหรือดอกไม้ที่มีความชื้นสูง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาราวๆ 5 – 6 สัปดาห์เลยทีเดียว

เคล็ดลับ : หากคุณอยากให้ดอกไม้ของคุณนั้นโค้งงอ คุณสามารถนำก้านดอกไม้มาจุ่มในน้ำอุ่นจนก้านอ่อนลง แล้วจึงทำการดัดตามต้องการ นำไปถ่วงไว้ตามคานแล้วรอจนแห้งสนิท เท่านี้คุณก็จะได้รูปทรงของดอกไม้ตามที่ต้องการแล้วละค่ะ


5.    คงสภาพของดอกไม้แห้งให้ยาวนานยิ่งขึ้นด้วยสเปรย์ฉีดผม

ขั้นตอนสุดท้ายนั่นก็คือการใช้สเปรย์ฉีดผมของคุณ ฉีดเข้าไปในดอกไม้แห้งให้ทั่ว อนุภาคขนาดเล็กของสเปรย์จะช่วยคงรูปของดอกไม้และลดการหลุดร่วงของดอกไม้ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

15
คอนโดติดรถไฟฟ้า พาร์ค 168 อ่อนนุช 19 (Park 168 Onnut 19)
เริ่มต้น 1.99 ลบ. 

พาร์ค 168 อ่อนนุช 19 (Park 168 Onnut 19)
คอนโดใหม่ทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวก ใกล้ BTS อ่อนนุช พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

 รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ            พาร์ค 168 อ่อนนุช 19 (Park 168 Onnut 19)
 เจ้าของโครงการ       ลุมพินี-LPN ดีเวลลอปเมนท์
 ราคา                    เริ่มต้น 1.99 ลบ.

 ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.   โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ลักษณะทำเล          คอนโดใกล้ขนส่งสาธารณะ
 ความสูงคอนโด       โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ลักษณะกรรมสิทธิ์    โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ประเภทห้องที่มี       1 ห้องนอน
 ขนาดห้องที่มี         ตั้งแต่ 24.00 ถึง 34.50 ตร.ม.
 เนื้อที่ทั้งหมด        โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนตึก            3 อาคาร
 จำนวนชั้น            8 ชั้น
 จำนวนห้อง          761 ยูนิต
 ที่จอดรถทั้งหมด      ประมาณ 233 คัน
 ค่าบำรุงส่วนกลาง    โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สาธารณูปโภค        สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนหย่อม, Co-Working Space

 สถานที่ใกล้เคียง
 โซน    ประเวศ, พระโขนง, สวนหลวง
 ที่ตั้ง    ถนนอ่อนนุช แขวงอ่อนนุช เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร

 ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า:                    โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
โลตัส อ่อนนุช
เกตเวย์ เอกมัย
วันโอวัน ทรู ดิจิทัล พาร์ค
ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์
โรงเรียนจินดาพงษ์
โรงเรียนนานาชาติเซ็นจูเรี่ยน กรุงเทพฯ
โรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ
โรงเรียนวัดราษฎร์ศรัทธาธรรม
โรงเรียนนานาชาติเวลส์ส
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล้วยน้ำไท
โรงพยาบาลสุขุมวิท
โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ สุขุมวิท 62

หน้า: [1] 2 3 ... 14