ผู้เขียน หัวข้อ: โรคความดันโลหิตสูง อันตรายแค่ไหนถ้าไม่รักษาต่อเนื่อง?  (อ่าน 2 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 572
  • ซื้อขายสินค้ายานยนต์ โพสฟรีสินค้าทั่วไทย
    • ดูรายละเอียด
โรคความดันโลหิตสูง อันตรายแค่ไหนถ้าไม่รักษาต่อเนื่อง?

โรคความดันโลหิตสูงเป็น "ภัยเงียบ" ที่อันตรายอย่างยิ่งหากไม่ได้รับการรักษาและควบคุมอย่างต่อเนื่อง เพราะแม้ไม่มีอาการแสดง แต่แรงดันที่สูงกว่าปกติจะค่อย ๆ ทำลายหลอดเลือดและอวัยวะสำคัญทั่วร่างกายอย่างช้า ๆ จนเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่นำไปสู่ความพิการหรือการเสียชีวิตอย่างฉับพลัน


หากผู้ป่วยไม่รักษาต่อเนื่อง (เช่น หยุดยาเอง ลืมกินยาบ่อย หรือไม่ปรับพฤติกรรม) จะเกิดความเสียหายสะสม โดยเฉพาะต่อ 4 อวัยวะหลัก ดังนี้:


1. สมอง (อัมพฤกษ์/อัมพาต)
นี่คือความเสี่ยงที่น่ากลัวที่สุด เพราะทำให้เกิดความพิการอย่างถาวร

โรคหลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic Stroke): แรงดันที่สูงมากดันให้ผนังหลอดเลือดแดงในสมองที่เสื่อมสภาพอยู่แล้วเกิดการฉีกขาดหรือแตกออก ทำให้มีเลือดออกในสมอง ผู้ป่วยอาจหมดสติ เป็นอัมพาต หรือเสียชีวิตทันที

โรคหลอดเลือดสมองตีบ/อุดตัน (Ischemic Stroke): ความดันสูงเร่งให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ทำให้หลอดเลือดในสมองแคบลงจนตีบตัน นำไปสู่อัมพฤกษ์/อัมพาต


2. หัวใจ (หัวใจวาย/หัวใจขาดเลือด)
เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ

ภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart Failure): หัวใจต้องทำงานหนักเพื่อสู้กับแรงดันสูง ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจหนาตัว หัวใจโต และสูญเสียความสามารถในการสูบฉีดเลือดอย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่อาการเหนื่อยง่าย นอนราบไม่ได้

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ: ความดันสูงเร่งการก่อตัวของคราบไขมันในหลอดเลือดหัวใจ เสี่ยงต่อภาวะ กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (Heart Attack)


3. ไต (ไตวายเรื้อรัง)
ความเสียหายที่มักนำไปสู่การฟอกไตตลอดชีวิต

โรคไตวายเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease): แรงดันสูงทำลายหลอดเลือดฝอยเล็ก ๆ ที่ทำหน้าที่กรองของเสียในไตอย่างช้า ๆ ทำให้ไตเสื่อมลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งเข้าสู่ภาวะไตวายระยะสุดท้าย และต้องรักษาด้วยการฟอกเลือดหรือปลูกถ่ายไต

วงจรความดันสูง-ไตเสื่อม: เมื่อไตเสื่อมลง ไตจะยิ่งผลิตสารที่ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นไปอีก ทำให้การควบคุมโรครักษาทำได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ


4. ตา (ตาบอด)
หลอดเลือดเล็ก ๆ ที่จอประสาทตาจะได้รับความเสียหายอย่างถาวร

จอประสาทตาผิดปกติจากความดันโลหิตสูง (Hypertensive Retinopathy): หลอดเลือดที่จอประสาทตาเสื่อม ทำให้เลือดออกในตา หรือหลอดเลือดตีบตัน นำไปสู่การมองเห็นที่แย่ลง ตาพร่ามัว จนถึงขั้นตาบอดถาวรได้

สรุป: การไม่รักษาต่อเนื่อง คือการปล่อยให้ "การทำลายหลอดเลือด" ดำเนินไปอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งไม่ได้นำไปสู่แค่ความดันที่สูงขึ้น แต่เป็นการสะสมความเสี่ยงต่อเหตุการณ์วิกฤตที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ เช่น เส้นเลือดในสมองแตกหรือหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งส่วนใหญ่มักจบลงด้วยการ เสียชีวิตอย่างฉับพลัน หรือความพิการถาวร ที่ไม่สามารถย้อนกลับมาเป็นปกติได้