ผู้เขียน หัวข้อ: ตรวจอาการด้วยตนเอง: โรคบิด (Dysentery)  (อ่าน 38 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 448
  • ซื้อขายสินค้ายานยนต์ โพสฟรีสินค้าทั่วไทย
    • ดูรายละเอียด
ตรวจอาการด้วยตนเอง: โรคบิด (Dysentery)
« เมื่อ: วันที่ 17 มิถุนายน 2025, 18:57:06 น. »
ตรวจอาการด้วยตนเอง: โรคบิด (Dysentery)

โรคบิดเป็นการอักเสบของลำไส้ใหญ่ โดยเฉพาะส่วนปลาย ทำให้มีอาการปวดเบ่งเวลาถ่ายอุจจาระ และมีมูกเลือดปนในอุจจาระ แบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักๆ คือ

โรคบิดชิเกลลา (Bacillary Dysentery หรือ Shigellosis):

สาเหตุ: เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในกลุ่ม Shigella
การติดต่อ: ติดต่อได้ง่ายมากโดยการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนอุจจาระของผู้ป่วย หรือจากการสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนแล้วนำมือเข้าปาก (Fecal-oral route)

อาการ:
มีไข้ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน
ถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือดบ่อยครั้ง (อาจมากถึง 10-20 ครั้งต่อวัน)
ปวดเบ่ง ทรมาน (Tenesmus) คือรู้สึกอยากถ่ายตลอดเวลาแต่ถ่ายไม่ออก หรือถ่ายออกน้อยมาก
อาจมีอาการชักในเด็กเล็กที่มีไข้สูง
อาการมักเริ่มหลังได้รับเชื้อ 1-3 วัน และหายได้เองใน 3-7 วัน หากไม่รุนแรง

โรคบิดอะมีบา (Amoebic Dysentery หรือ Amoebiasis):

สาเหตุ: เกิดจากการติดเชื้อพยาธิอะมีบา Entamoeba histolytica
การติดต่อ: เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่มีเชื้อซิสต์ (cyst) ของอะมีบาปนเปื้อนเข้าไป

อาการ:
มักมีอาการค่อยเป็นค่อยไป ไม่รุนแรงเท่าบิดชิเกลลาในระยะแรก
ถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือด มักมีกลิ่นเหม็นคาว แต่ไม่ปวดเบ่งรุนแรงเท่าบิดชิเกลลา
อาจมีอาการท้องผูกสลับท้องเสีย
หากปล่อยทิ้งไว้ เชื้ออะมีบาอาจเข้าสู่กระแสเลือดและไปก่อให้เกิดฝีในอวัยวะอื่นๆ ได้ เช่น ฝีในตับ ฝีในสมอง ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิต

การวินิจฉัย
ตรวจอุจจาระ: แพทย์จะนำตัวอย่างอุจจาระไปตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย หรือซิสต์ของอะมีบา


การรักษา

การรักษาทั่วไป:

ชดเชยน้ำและเกลือแร่: สำคัญมาก เพราะการถ่ายบ่อยทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ ควรดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำเกลือแร่ (ORS)
พักผ่อนให้เพียงพอ
ทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย

การรักษาจำเพาะ (ด้วยยาปฏิชีวนะ/ยาฆ่าอะมีบา):

โรคบิดชิเกลลา: มักใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น Ciprofloxacin, Azithromycin หรือ Ceftriaxone (ในกรณีรุนแรง)
โรคบิดอะมีบา: มักใช้ยาฆ่าอะมีบา เช่น Metronidazole หรือ Tinidazole
ข้อควรระวัง: ไม่ควรใช้ยาหยุดถ่ายในผู้ป่วยโรคบิด เพราะจะทำให้เชื้อโรคอยู่ในลำไส้นานขึ้นและอาการแย่ลง

การป้องกัน
การป้องกันโรคบิดเน้นที่สุขอนามัยที่ดีเป็นหลัก:

ล้างมือให้สะอาด ด้วยสบู่และน้ำทุกครั้ง ก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ
ดื่มน้ำสะอาด น้ำต้มสุก หรือน้ำที่ผ่านการกรองที่ได้มาตรฐาน
เลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ และถูกสุขลักษณะ หลีกเลี่ยงอาหารดิบๆ สุกๆ ดิบๆ หรืออาหารที่วางทิ้งไว้นาน
กำจัดอุจจาระอย่างถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้ป่วย
ดูแลความสะอาดของห้องน้ำ และบริเวณรอบบ้าน

หากมีอาการท้องเสียรุนแรง มีมูกเลือดปนในอุจจาระ หรือมีไข้สูง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้องครับ