การตรวจเพื่อเข้ารับการแก้ไขด้วยการจัดฟันเด็กการตรวจเพื่อเข้ารับการแก้ไขด้วยการจัดฟันในเด็กมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ขากรรไกรและฟันยังมีการเจริญเติบโตอยู่ ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาโครงสร้างได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากกว่าในผู้ใหญ่ โดยทั่วไป สมาคมทันตแพทย์จัดฟันแห่งอเมริกา (American Association of Orthodontists - AAO) แนะนำให้เด็กเข้ารับการตรวจกับทันตแพทย์จัดฟันครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 7 ขวบ (หรือเร็วกว่านั้น หากผู้ปกครองสังเกตเห็นปัญหา)
สิ่งที่ทันตแพทย์จัดฟันจะทำการตรวจและพิจารณาในการประเมินเบื้องต้น:
การซักประวัติ (Medical and Dental History Review):
สอบถามประวัติสุขภาพทั่วไปของเด็ก เช่น โรคประจำตัว, ยาที่รับประทาน
สอบถามประวัติทางทันตกรรม เช่น การสูญเสียฟันน้ำนม, พฤติกรรมช่องปากที่ไม่เหมาะสม (เช่น การดูดนิ้ว, การหายใจทางปาก), ประวัติการบาดเจ็บที่ฟันหรือใบหน้า
การตรวจภายในช่องปาก (Oral Examination):
การเรียงตัวของฟัน: ตรวจสอบว่าฟันน้ำนมและฟันแท้ที่ขึ้นมามีการเรียงตัวผิดปกติหรือไม่ เช่น ฟันซ้อนเก, ฟันห่าง, ฟันหมุน
การสบฟัน (Bite Assessment): ตรวจสอบว่าฟันบนและฟันล่างสบกันอย่างไรเมื่อกัดฟัน มีปัญหาการสบฟันผิดปกติหรือไม่ เช่น
ฟันสบลึก (Deep Bite): ฟันหน้าบนคร่อมฟันหน้าล่างมากเกินไป
ฟันสบเปิด (Open Bite): ฟันหน้าบนและล่างไม่สบกันเลยเมื่อกัดฟัน
ฟันสบคร่อม (Crossbite): ฟันบนสบอยู่ด้านในของฟันล่าง
ฟันยื่น (Protrusion): ฟันหน้าบนยื่นออกมามากเกินไป
ฟันล่างยื่น (Underbite): ฟันล่างยื่นออกมาคร่อมฟันบน
ฟันน้ำนมและฟันแท้: ตรวจสอบว่าฟันน้ำนมมีการหลุดไปตามวัยหรือไม่ และฟันแท้กำลังขึ้นมาในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่
สุขภาพเหงือกและเนื้อเยื่ออ่อน: ประเมินสุขภาพเหงือกและเยื่อบุช่องปาก
พฤติกรรมช่องปาก: สังเกตพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น การดูดนิ้ว, การหายใจทางปาก, การกัดลิ้น, การกลืนที่ผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของขากรรไกรและฟัน
การตรวจโครงสร้างใบหน้าและขากรรไกร (Facial and Jaw Assessment):
ประเมินความสมดุลของใบหน้า
ตรวจสอบการเจริญเติบโตของขากรรไกรบนและล่างว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร มีปัญหาขากรรไกรยื่นหรือหดหรือไม่
ตรวจสอบข้อต่อขากรรไกร (TMJ - Temporomandibular Joint)
การถ่ายภาพรังสี (X-rays):
ภาพถ่ายรังสีรอบช่องปาก (Panoramic X-ray): เพื่อดูฟันที่ยังไม่ขึ้น, ฟันคุด, ฟันเกิน, ฟันขาด, การเจริญเติบโตของขากรรไกร, และตรวจหาพยาธิสภาพอื่นๆ
ภาพถ่ายรังสีด้านข้างศีรษะ (Cephalometric X-ray): เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของขากรรไกร ฟัน และโครงสร้างใบหน้า เพื่อวางแผนการรักษา
การพิมพ์ปาก (Impressions/Digital Scans):
เพื่อสร้างแบบจำลองฟันของเด็ก ซึ่งจะช่วยให้ทันตแพทย์สามารถวิเคราะห์ปัญหาการสบฟันได้อย่างละเอียด และใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการรักษา
การถ่ายภาพ (Photographs):
ถ่ายภาพใบหน้า (ด้านหน้า, ด้านข้าง) และภาพภายในช่องปาก เพื่อใช้ในการวินิจฉัย วางแผนการรักษา และติดตามความคืบหน้า
หลังการตรวจ ทันตแพทย์จัดฟันจะ:
แจ้งผลการวินิจฉัย: อธิบายถึงปัญหาที่พบอย่างชัดเจน
นำเสนอแผนการรักษา: อธิบายทางเลือกในการจัดฟันที่เหมาะสม (เช่น การจัดฟันแบบ 1 ระยะ หรือ 2 ระยะ) รวมถึงประเภทของเครื่องมือ (เช่น EF Line, เครื่องมือขยายขากรรไกร, จัดฟันแบบติดแน่น)
บอกระยะเวลาและค่าใช้จ่ายโดยประมาณ: เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถวางแผนได้
ให้คำแนะนำ: เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปากและพฤติกรรมที่ควรปรับเปลี่ยน
การตรวจเพื่อเข้ารับการแก้ไขด้วยการจัดฟันในเด็กเป็นการประเมินที่ครอบคลุม เพื่อให้ทันตแพทย์สามารถระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของฟันและขากรรไกรให้มีความสมดุลและสวยงามที่สุดครับ